Hour of the Star (1977) | Clarice Lispector

review by Kukee

Hour of the Star (1977) | Clarice Lispector

All the world began with a yes. One molecule said yes to another molecule and life was born.

ในโมงยามแห่งดวงดาว โรดริโก้เริ่มต้นคุยกับนักอ่านถึงความยากในงานเขียน เขาบอกว่าความคิดคือการกระทำ ความรู้สึกคือข้อเท็จจริง ตราบใดที่คำถามยังไม่มีคำตอบ เขาจะเขียนต่อไป โรดริโก้พล่ามปรัชญายาวเหยียด พอนึกออกทีก็เข้าเนื้อหา เขาเล่าว่าเป็นชีวิตธรรมดาของคนไม่น่าสนใจ ตัวละครมีเจ็ดตัวรวมถึงตัวเขา ตอนจบอลังการด้วยความเงียบและสายฝน เขาสัญญาจะมีฉากชายยืนสีไวโอลินผุผังตรงหัวมุมถนนและโปรดเข้าใจว่าหนังสือเล่มนี้เขียนด้วยอาการปวดฟันตั้งแต่ต้นจนจบ

บนถนนในริโอ เดอจาเนโร ย่านสลัมแอดอัดถิ่นที่อยู่ของโสเภณีและแรงงาน หญิงสาววัยสิบเก้าปีจากอาลาโกอัสมาทำงานในเมืองหลวง เธอเป็นพนักงานพิมพ์ดีดที่ไม่รู้จักตัวเองยกเว้นอยู่ไปวัน ๆ ยิ้มให้คนอื่นก็ไม่มีใครยิ้มตอบ แทบไม่หันมามอง การมีอยู่ของเธอบางเบาแปลกแยก มีแต่ความว่างเปล่า ไร้ความหมาย เธอมีเพียงลมหายใจเข้าออกที่บ่งบอกชีวิต

ผู้เขียนบอกว่ามากาเบียไม่ใช่คนโง่ แค่ไม่อยากทำร้ายจิตใจตนเอง เธอจึงเชื่อในความสุข คุณสมบัติข้อนี้ทำให้เธองดงามด้วยไม่เคยไร้ซึ่งศรัทธา มากาเบียอาศัยอยู่ในห้องรูหนูกับเพื่อนร่วมห้องสี่คน ชีวิตหรูหราสุดคือการดื่มกาแฟเย็นชืดสักแก้วก่อนนอน ฮอทดอกเป็นอาหาร เดินดูราวตากผ้าพลิ้วไหวของคนมี เธอเงียบขรึมแต่ชอบฟังเสียงครวญเมือง น้ำเสียงอึกทึกทรมานของโรดริโก้จางไป กลายเป็นประโยคมากาเบียจากลิสเปคเตอร์ ความสัมพันธ์ระหว่างนักเขียน นักอ่าน ตัวละครแนบแน่นกับคำถามในตัวตนมนุษย์

ความสุขของมากาเบียคือการได้ฟังวัฒนธรรมในวิทยุ เธอชอบสะสมโฆษณาหนังสือพิมพ์ ครีมบำรุงผิวสำหรับผู้หญิงที่คงไม่ใช่เธอ แอบคิดในใจว่าเรื่องไรจะมาทาตัวให้โง่ เธอจะตักกินครีมฟูฟ่องให้หมดเพื่อสร้างเนื้อหนังมังสา ความเศร้าเป็นเรื่องคนรวยเพราะพวกเขาแสวงหาได้ คนไม่มีอย่างมากาเบียถือว่าความเศร้าเป็นสิ่งฟุ่มเฟื่อย เธอมีความสุขมากจนรำพึง..ฉันคงคิดถึงตัวเองมากมายหากตายไป จนวันหนึ่งมากาเบียพบกับความรักเจ้ากรรม เงาความเศร้าจาง ๆ เริ่มปรากฎตัวชัดอีกครั้ง

แคลริซ ลิสเปคเตอร์เป็นชาวยิวในยูเครน ครอบครัวอพยพหนีสงครามมาอยู่บราซิลตั้งแต่เด็ก ในจดหมายอลิซาเบธ บิช็อบเขียนถึงแคลริซว่าไม่ค่อยอ่านหนังสือ แต่หัดเขียนเองเหมือนศิลปินภาพยุคโบราณ น่าแปลกที่วรรณกรรมวิถีของเธอมีเอกลักษณ์โดดเด่น

แคลริซทิ้งข้อความหนึ่งถึงนักอ่าน..โปรดดูแลเธอเพราะฉันทำได้แค่เขียนให้คุณเห็น เวลาเจอเธอบนท้องถนน หวังว่าคุณจำเธอได้..