คนเดียวเนี่ยนะ?
ไหวเหรอวะ?
ไปเครื่องเถอะวะ?
บ้าไปแล้ว?

ก็บ้าแหละ เพิ่งเอาตินตินออกจากอู่แถวคู่ขนานทับช้างเมื่อบ่ายแก่ ๆ ช่างโย่งยังออกปากว่าจะดีเหรอพี่? ไม่สน ฉันไม่รอแล้ว…

ตกเย็น ฉันขับตินตินไปขนป้ายไฟติด the reader’s secret แผ่นเบ้อเริ่มที่ร้านอีบัน เพื่อน ภปร. แถวแยกประเวศ แวะติดกระจกมองหลังที่ร้านอีอ๊อด รุ่นน้องสวนฯ แถวพัฒนาการ เรียกว่าไล่ทำตินตินกันจนนาทีสุดท้าย กลับมาบ้านจัดข้าวของขึ้นรถ แน่นเอี๊ยดจนตู้แทบไม่เหลือที่ว่าง

เข้านอนแต่หัวค่ำ แต่นอนไม่หลับ ตื่นเต้น ก็เห่อแหละ… จะได้ขับตินตินออกเดินทางไกลเป็นครั้งแรก…

ออกเดินทางจากโรงเตี๊ยมเล็ก ๆ แถวสุวรรณภูมิ 7 โมงเช้า ดูกูเกิ้ลแล้วใช้เวลาเดินทางถึงเชียงใหม่ราว 9 ชั่วโมง สำหรับตินตินฉันเผื่อไปอีก 3 หรืออาจใช้เวลาเป็นอาทิตย์ก็เป็นได้

โอ้ไม่นะ… 555

เข้าวงแหวนมุ่งหน้าบางปะอิน มีอุบัติเหตุแถวทางออกลำลูกกา รถติดเป็นกิโล ขยับตามกันไปทีละนิด จู่ ๆ เครื่องตินตินก็สะอึก และดับลงอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ฉันปล่อยรถไหลเข้าชิดขอบทาง รถที่ติดหนักอยู่แล้วยิ่งติดหนักเข้าไปอีก

แอร์เย็นฉ่ำ แต่เหงื่อแตกพลั่ก ไหว้เจ้าพ่อเจ้าแม่เจ้าป่าเจ้าเขา สตาร์ทเครื่องซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ราว 2-3 นาที ตินตินก็ฟื้นคืนชีพ วิ่งฉิวไปต่อได้ด้วยความเร็ว 90-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เสียงเครื่องยนต์เบนซิน 5K อันทรงพลัง แต่ซดน้ำมันชิบหายครางกระหึ่ม ฉันกลัวมันจะหลุดเป็นชิ้น ๆ

แวะฉี่ เข้าส้วม จิบกาแฟ เติมลมยางปั๊มโน้นปั๊มนี้ไปเรื่อย ราวเที่ยงก็ถึงนครสวรรค์ ถือว่าทำเวลาดีใช้ได้ แวะกินก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลากรายนายตี๋ก่อนดีกว่า

ฉันไม่คุ้นเคยเมืองปากน้ำโพ แต่ก็คลำทางไปจนถึงร้านนายตี๋ที่ตั้งอยู่กลางตลาด ช่วงเที่ยงมีคนอุดหนุนเนืองแน่น ลูกชิ้นปลากรายลูกเล็ก ๆ ที่บางคนเรียกลูกชิ้นหัวนมรสชาติพอใช้ สัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวนิด ๆ แต่ที่ถูกใจคือของกินเล่นจำพวกทอดมันปลากรายที่เหนียวหนึบ และปอเปี๊ยะกุ้งที่ทอดซะกรอบกรุบ เอร็ดอร่อยมากมายทั้งสองอย่าง

จริง ๆ ฉันมีเพื่อน มช. อยู่ปากน้ำโพ ตั้งใจจะไปเยี่ยมเยือนเพื่อนซักครั้ง แต่ไว้โอกาสหน้าดีกว่า เรื่องของเรื่องคือกลัวจะชวนกันนั่งซดเบียร์ชมวิวแม่น้ำ สุดท้ายอาจต้องค้างคืนอยู่ที่นี่ ไม่ต้องไปไหนกันพอดี

อิ่มแล้วจึงแวะไป “พาสาน” จุดเช็คอินแห่งใหม่ของนครสวรรค์ ข้ามสะพานป้อมหนึ่งจากฝั่งตลาดไปเกาะยมก็ถึงแล้ว พาสานตั้งอยู่บนบริเวณจุดกำเนิดแม่น้ำเจ้าพระยา ที่แม่น้ำปิงวังและยมน่านมาบรรจบกัน พาสานในความคิดของฉันเป็นสถาปัตยกรรมยุคใหม่ที่โคตรเท่ เมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้วจะเป็นพื้นที่จัดกิจกรรมเก๋ ๆ ได้เป็นอย่างดี จะให้ดีต้องมายามพระอาทิตย์ตก สวยงามมาก ๆ ว่ากันอย่างนั้น

ออกเดินทางต่อด้วยความเร็วคงที่ ตินตินไม่เกเรอะไร นอกจากมีเสียงวี๊ดดังใต้เครื่องเมื่อเร่งความเร็วแตะ 100 โทรถามช่างโย่งได้ความว่าน่าจะเพราะสายพานไดชาร์จ ไม่รู้จะทำยังไง ฉันก็ขับของฉัน แวะปั๊มนั้นปั๊มนี้อย่างเคย ถือว่าพักคนพักรถ

บ่ายสามโมงก็ถึงตาก แวะหาเพื่อนที่นัดหมายไว้ก่อนแล้ว คืนนี้ฉันค้างบ้านเพื่อนติกนี่แหละ ประหยัดค่าโรงแรมไปได้ 1 คืนบวกอาหารอีก 2 มื้อ 555

ร้านที่เพื่อนติกพาไปเป็นร้านที่ฉันคุ้นเคย ร้านแรกมื้อค่ำที่ร้านอาหารบ้านเคียงน้ำ เป็นระเบียงยื่นออกไปในลำน้ำ มีวงดนตรีรุ่นพ่อรุ่นแม่บรรเลงเพลงที่พอจะร้องตามไปได้ บรรยากาศเย็นสบายลมหนาวพัดผ่านโชยแผ่ว แม่น้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองตากกว้าง น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา ลงไปเดินเล่นที่หาดทรายได้สบาย ๆ ฉันชอบที่นี่เป็นที่สุด ชิล ๆ ดื่มเหล้าแล้วไม่ค่อยเมา 555

เมนูหลากหลาย โดยเฉพาะอาหารจานปลา แต่ที่ต้องสั่งทุกครั้งคือลาบกรอบเมืองตาก เป็นลาบรสชาติที่อยู่ตรงกลางระหว่างลาบคั่ว (ลาบเมือง) และลาบอีสาน นัว ๆ เนียน ๆ ติดใจตรงที่เอาเครื่องในมาทอดจนกรอบ อร่อยมากมายจนต้องสั่งอีกจานเลยทีเดียว

ส่วนมื้อเช้า ไม่ต้องไปไหนไกล ร้านบ้านข้าวแกงใต้นคร ณ ตากอยู่ปากซอยบ้านเพื่อนติก เป็นร้านข้าวแกงปักษ์ใต้ง่าย ๆ ที่ไม่ธรรมดา กับข้าวเรียงรายเต็มตู้ ดูแล้วน่าอร่อยไปซะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเมนูเบสิคเช่น ปลาทอด หมูหวาน ไข่พะโล้ ใบเหลียงผัดไข่ ฯลฯ ไล่ไปถึงระดับแอ๊ดวานซ์เช่น แกงส้ม แกงไตปลา คั่วกลิ้ง ฯลฯ แถมยังมีข้าวยำและขนมจีนแสนอร่อยให้ลิ้มลองอีกด้วย

โบกมือลาเพื่อนติกแล้ว ฉันยังแวะร้านเถียงนา ร้านเบเกอรี่และกาแฟชื่อดัง คว้าครัวซองต์ที่ลือกันว่าอร่อยติดรถไป 2 ชิ้น อิ่มปลิ้นถึงพรุ่งนี้เลยทีเดียว

ถ้าลองจอดดับเครื่องแล้ว ตินตินมักออกอาการสตาร์ทติดยาก ต้องปลุกปล้ำกันอยู่หลายครั้ง แต่เมื่อติดแล้วมันก็พาฉันเดินทางต่อไปได้เรื่อย ๆ การเดินทางช่วงต่อไปเป็นช่วงที่ฉันค่อนข้างหวั่นใจ เพราะต้องขึ้นเขา ลากขึ้นเนินกันยาว ๆ ไม่ว่าจะช่วงเถินหรือดอยขุนตาน แต่แล้วก็ผ่านไปได้สบาย ๆ ถึงแยกเข้าลำพูน ฉันลบเบอร์รถสไลด์ออกจากมือถือแทบไม่ทันเลยทีเดียว 555

ถึงเชียงใหม่ราวบ่าย 3 ฉันแวะไปดูความคืบหน้าการก่อสร้าง the reader’s secret ของฉันที่อำเภอสารภี เห็นแล้วก็เครียด ด่าพ่อช่าง ด่าแม่ผู้รับเหมาเสร็จ สบายใจแล้วก็ขับตินตินเข้าเมืองเชียงใหม่ แวะให้ช่างเปลี่ยนสายพานไดชาร์จ เสียค่าแรงค่าของไป 250 บาทอาการเสียงดังใต้เครื่องก็หายเป็นปลิดทิ้ง เหยียบ 120 ก็ไม่ร้อง ถ้าเครื่องไม่พังไปก่อนนะ 555

ชีวิตของฉันที่เชียงใหม่ 2-3 วัน วนเวียนอยู่ที่ร้านขายวัสดุก่อสร้างและ the reader’s secret ตกเย็นก็ตระเวณหาของกินอร่อย ๆ ไม่ว่าจะร้านเสน่ห์ชายน้ำ ร้านเนื้อย่างยูได ร้านชาบู Inbox ฯลฯ เมามายได้ที่ก็ควบตินตินกลับที่พัก ซึ่งก็คือบ้านเพื่อนต้อม นอนสบาย แถมมีปาท่องโก๋โกเหน่งให้กินยามเช้าอีกด้วย

คิดเหมือนกันนะ ว่าฉันเดินทางทีนึง เพื่อน ๆ พากันลำบากไปหลายจังหวัด 555 ยังไงก็ขอขอบคุณเพื่อน ๆ มาอีกครั้ง ณ โอกาสนี้

ขากลับฉันขับตินตินรวดเดียวถึงกรุงเทพ แวะโน่นแวะนี่ใช้เวลา 11 ชั่วโมง สรุปรวมค่าน้ำมันไปกลับราว 4,000 บาท แม่งซดน้ำมันยังกับรถถัง ค่าเสียหายพอ ๆ กับนั่งเครื่องบินไปกลับ 2 รอบ ได้ข้อสรุปว่าใช้ตินตินขับทางไกลแบบนี้ไม่ไหว เก็บไว้ขับเล่น ๆ ใกล้ ๆ หรือเอาไว้ไปซื้อกับข้าวปากซอยดีกว่า

อย่าหาทำ ๆๆๆ ถึงบ้านฉันหลับเป็นตายข้ามวันข้ามคืนเลยทีเดียว

ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่มีส่วนช่วยเหลือให้การเดินทางไกลครั้งแรกของตินตินในครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี

ติดตามการผจญภัยของ ตินติน รถตู้ตัวน้อย

The Reader’s secret ที่พักง่าย ๆ บรรยากาศสบาย ๆ สำหรับคนรักหนังสือ บ้านกู่แดง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้

ตอนนี้ฉันมีผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพหลากหลายประเภท ตราลุงต๋อม กำลังซุ่มเตรียมจัดจำหน่ายในหลายช่องทาง ปีหน้าฟ้าใหม่เจอกันแน่นอน เชิญคลิก like เพจลุงต๋อมติดตามล่วงหน้ากันได้เลย