スープカレー หรือซุปแกงกะหรี่แสนอร่อยของเมืองชิโตเสะ
ไปชิโตเสะเที่ยวนี้ ฉันใบ้แดกเลยทีเดียว จึงขอข้อมูลเพื่อน ๆ ลูกเรือร่วมไฟลท์ในห้องบรีฟเอาดื้อ ๆ คือไม่ชวนฉันไปกินข้าวด้วยไม่ว่า แต่อย่าถึงกับทิ้งให้อดตาย ช่วยชี้ทางสว่างให้หน่อยก็แล้วกัน
แล้วข้อมูลก็หลั่งไหลมาดั่งห่าฝน คนนึงแนะนำซูชิสายพานในห้างอิออนใกล้ ๆ บ้างแนะนำอาหารญี่ปุ่นจานเดียวทั่ว ๆ ไป เช่น ราเมง อุด้ง ข้าวแกงกะหรี่ เทมปุระ ฯลฯ ในฟู้ดคอร์ท แถมบอกฉันด้วยมื้อสองมื้อพี่จะอะไรนักหนา คนนึงแนะนำให้ฉันกินเนื้อลุงซาโต้ ในขณะที่บางคนแอบกระซิบฉันอย่าไปเลยพี่ ร้านลุงแม่งปิดบ่อย และแพงไร้สาระ อะ ก็ว่ากันไป…
ที่ฉันสนใจคือร้าน Beef Impact เพราะไม่ได้กินสเต็กเนื้อขนาด 350-500 กรัมมานานแล้ว ที่สำคัญคืออยู่ตรงข้ามโรงแรม ขอบคุณน้องเอ๋ยที่แนะนำ (รักนะ จุ๊บ ๆ) อีกคนให้ผมลองซุปเคอรี่ นัยว่าเดี๋ยวเค้าจะหาว่ามาไม่ถึงซัปโปโร ขอบคุณน้องนิค และน้องใครอีกคนจำชื่อไม่ได้แล้ว 555
ร้าน Beef Impact เขียนถึงไปแล้วเมื่อหลายวันก่อน วันนี้เขียนถึงซุปเคอรี่กันดีกว่า คิดแล้วก็ขำการบอกทิศทางของน้องแอร์ เธอบอกพี่ออกจากโรงแรมเลี้ยวซ้ายนะ เดินไปประมาณร้อยเมตร พี่จะเจอโฮมโปร ห๊ะ… มีโฮมโปรด้วยเหรอ เมื่อไปถึงจึงเห็นว่าที่จริงคือห้างนิโทรุ ห้างนี้ขายข้าวของเครื่องใช้ และอุปกรณ์ตกแต่งภายในบ้าน เช่น ที่นอน หมอม มุ้ง กรอบรูป โคมไฟ เครื่องครัว อุปกรณ์เสริมภายในห้องน้ำ ฯลฯ
พี่ต๋อมข้ามถนนหน้าโฮมโปรเลยนะ แล้วจะเห็นร้านเกม (เจอจริง ๆ คือปาจิงโกะขนาดใหญ่) ข้าง ๆ จะเป็นเวิ้ง ๆ ร้านจะเป็นหิน ๆ แต่เมื่อฉันไปถึงร้านจริง ๆ ไม่มีอะไรเกี่ยวกับหินเลย มันคือฝาไม้อัดที่ถูกแดดเลียจนซีดต่างหาก

ภายนอกร้าน Asian Bar-Ramai หน้าตาเหมือนโรงนาขนาดย่อม ๆ อย่างที่เห็นในภาพ มีคิวรออยู่ 3-4 คิว ประมาณ 20 นาทีก็ถูกเรียกเข้าไปนั่งในร้าน ภายในร้านทึม ๆ เปิดเพลงสากลแนว ๆ ที่ไม่เข้ากับสไตล์การตบแต่งร้านที่ไปทางพุทธมหายานเอาซะเลย บน โต๊ะไม้ที่ขัดจนเงามีรายการอาหาร 3-4 แผ่นวางอยู่เป็นภาษาญี่ปุ่นล้วน ๆ ฉันอ่านไม่ออกซักตัว กดเรียกพนักงานเสิร์ฟแล้วก็บอกบีฟฟุ ๆ เป็นอันรู้เรื่อง ระดับความเผ็ดก็ไม่รู้คุยกันอีท่าไหน แต่เข้าใจกันว่ามีให้เลือกตั้งแต่ระดับ 1-10 ฉันเลือก 7 อืมมม… สำหรับคนไทยที่รับประทานอาหารรสจัดอยู่แล้ว ความเผ็ดระดับ 7 ก็ราว ๆ แกงเขียวหวานเท่านั้น

แป๊บเดียวก็มาในชามร้อนจี๋ อ้อ… ซุปเคอรี่หน้าตาเป็นจะอี้นี่เอง มันคือซุปน้ำค่อนข้างใสแต่รสชาติเข้มข้นลงตัว เผ็ด ๆ เปรี้ยว ๆ ซดลื่นคอดีนักแล ในชามมีผัก เช่น แครอต มันฝรั่ง ถั่วแขก พริกหยวก และอีกหลายชนิดซึ่งฉันไม่รู้จักจัดเรียงมาสีสันสวยงาม มีไข่นกกระทาแถมมา 2 ฟอง เนื้อวัวนุ่มเคี้ยวง่ายขนาดหัวแม่มือ 4 ชิ้น และข้าวสวยญี่ปุ่นหนึ่งถ้วย โดยรวมแล้วอิ่มและอร่อยกว่าที่คิดไว้เยอะเลย
ที่แท้ทรูแล้ว ซุปเคอรี่ (Soup Curry スープカレー) หรือซุปแกงกะหรี่แสนอร่อย ไม่ใช่อาหารดั้งเดิมของเมืองซัปโปโร เกาะฮอคไกโดซักหน่อย หากแต่เป็นอาหารจานลูกผสมร้อยพ่อพันแม่ เพิ่งคิด เพิ่งทำกันขึ้นมา และเป็นที่รู้จักกันเมื่อราว 40-50 ปีนี่เอง
ก็คงเพราะความอยู่ไม่นิ่งของใครซักคน ที่จับเอาแกงกะหรี่เหนียว ๆ เขละ ๆ ดั้งเดิมของตน ไปผสมกับเครื่องแกงเผ็ดร้อนจากที่โน่นที่นี่ โดยเฉพาะประเทศที่ใช้เครื่องแกงรสจัดประกอบอาหาร เช่น อินเดีย ศรีลังกา ไทย ฯลฯ เสร็จแล้วก็เจือจางมันซะ เพิ่มผักและเนื้อสัตว์เข้าไป จนกลายเป็นซุปแกงเผ็ดที่ซดได้ง่าย ๆ ไม่หนืดเหนียวเหมือนแกงกะหรี่ดั้งเดิม หรือเผ็ดร้อนจนเกินไปเช่นแกงเหลืองหรือแกงไตปลาของเรา จึงเหมาะกับการรับประทานในฤดูหนาว ยามที่หิมะตกจั๊ก ๆ เป็นอันมาก
มีร้านซุปเคอรี่ขึ้นชื่อหลายร้านในตัวเมืองซัปโปโร เอาเป็นว่าใครขยันเชิญเข้าเมืองครับ แต่สำหรับฉัน ทั้งสองมื้อ จบลงที่ร้านใกล้ ๆ โรงแรมที่พักของฉันในเมืองชิโตเสะนี่แหละ พรุ่งนี้ต้องรีบตื่นแต่เช้าทำงานเข้ากรุงเทพ โอเคนะ