ไปปูซานดูกระจู๋ทะเล (Cock of the Sea)
ช่วงนี้บินยังกะสจ๊วต R (Regional) เลยทีเดียว ไฟลท์ที่แล้วก็นาริตะ หยุดวันนึง วันนี้มาปูซานอีกแล้ว ก็ไม่ได้บ่นอะไรถือว่าโชคดีด้วยซ้ำที่ยังมีสเก็ตให้บิน เปิดดูรูปเก่า ๆ จึงได้รู้ว่าผมมาปูซานครั้งสุดท้ายเมื่อปลายปี 49 เกือบสามปีเข้าไปแล้ว… แล้วก็เห็นว่าปูซานมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเยอะในทางที่ดีขึ้น เดี๋ยวว่าง ๆ จะเอารูป before และ after มาให้ชม
ผมมาถึงปูซานเมื่อวานเช้าตรู่ ตอนแรกตั้งใจจะนั่งรถชมวิว แต่ก็เหมือน (เกือบ) ทุกครั้ง ที่ขึ้นรถรับส่งลูกเรือเรียบร้อยก็หลับมาตลอดทาง มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนรถขึ้นคันสะดุดหน้าโรงแรม งัวเงีย ๆ รับกุญแจเสร็จก็ลากกระเป๋าขึ้นห้อง จริง ๆ ไฟทล์นี้ไม่มีใครสนใจใคร ลูกเรือส่วนใหญ่เป็นเด็กรุ่นใหม่ที่นำครอบครัวมาเที่ยวด้วย บางคนพาแม่มาด้วยน่ารักเชียว ส่วนนังหยุ่น แอร์รุ่นโบราณที่อยู่ดี ๆ บุญหล่นทับตีนบวมถูก OD เรียกสแตนบายมาบินกระทันหัน ก็ยังอุตส่าห์พาลูกพาผัวมาเที่ยวด้วย (มันเก่งจริง ๆ ออกตั๋วทัน) ส่วนเพอร์เซอร์ที่เป็น Classmate กันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยก็ดันหนีบญาติมาด้วยอีก สรุปว่าสจ๊วตเฒ่าอย่างผมก็ถูกทิ้งให้ใช้ชีวิตต่างแดนอย่างเดียวดายเช่นเคย…
ตื่นมาก็บ่ายแล้ว เปิดโน้ตบุค แล้วก็อาศัยสัญญาณอินเตอร์เนตไร้สายของอาคารแถวนี้นี่แหละออนไลน์ โชคดีไม่ต้องเสียเงินค่าเนตให้โรงแรม ซึ่งจะว่าไปก็ไม่แพง (12 ชั่วโมง 11,000 วอน หรือประมาณ 400 บาท) แต่ขโมยของชาวบ้านเค้าใช้ก็ต้องทำใจหน่อยเพราะแค่ไอเบา ๆ เนตก็หลุดแล้ว ช่างมัน… แค่ออนไลน์ msn คุยกับคนทางบ้านได้ก็ถือว่าโอเคแล้ว คิดอยู่หากโพสต์เรื่องและรูปที่กำลังเขียนอยู่นี่ลงเว็บไม่ได้อาจต้องลงทุนใช้เนตของโรงแรม ส่วนค่าเนตค่อยไปเบิกเอาจาก myoldeditor ทีหลัง อิอิ

โรงแรมที่ลูกเรือพักอยู่ติดชายหาดแฮอึมแด ส่วนห้องผมน่ะหันหลังให้ทะเลตามสูตร ก่อนไปกินข้าวจึงเดินไปสูดอากาศดี ๆ ริมทะเลแล้วก็พบว่าน่าตื่นตาตื่นใจมาก มีคนเดินกันขวักไขว่ บนชายหาดมีสาว ๆ ในชุดว่ายน้ำให้ชมเพียบ ส่วนใหญ่ก็หุ่นดีขาสวยทั้งนั้นไม่เหมือนสาวญี่ปุ่น ส่วนผู้ชายก็สแกนดูเหมือนกันแต่ไม่เห็นมันหล่อเหมือนในหนังเลยซักคน และด้วยหาดแฮอึมแดเป็นหาดยอดนิยมและมีชื่อเสียงที่สุดของประเทศ จึงมีนักท่องเที่ยวหนาตา หรือจะเรียกว่าเยอะจนยั๊วเยี้ยเลยก็ยังได้

น่าจะเป็นปลาไหลหรือปลาอะไรเทือก ๆ นั้น
ผมเดินไประลึกชาติที่ท่าเรือสุดหาด แถวนั้นมีร้านอาหารทะเลมากมายหลายร้าน มีคนอุดหนุนเต็มร้านทั้งร้านหรูหราและแผงลอยริมถนน แต่ที่เหมือนกันคือทุกร้านมีตู้ปลา ตู้เลี้ยงสัตว์น้ำตั้งเรียงกันเป็นตับยังกะ Aquarium ถ้าไม่คิดมากว่ามันเป็นสัตว์ที่เลี้ยงให้เราดูก่อนถูกนำมากินก็น่าตื่นตาตื่นใจดีเหมือนกัน เพราะมีสัตว์น้ำแปลก ๆ ที่เราไม่เคยเห็นให้ชมหลายชนิด

หนึ่งในนั้นคือเคบูล (Kae-bul) หรือกระจู๋ทะเล (Cock of the Sea) แหมเข้าใจตั้งชื่อ เพราะมันยืดได้หดได้ และดันพ่นน้ำได้อีกด้วย กระจู๋ทะเลเป็นกับแกล้มยอดนิยมของคนเกาหลี วิธีปรุงก็ไม่ยาก หยิบขึ้นมาจากตู้แล้วนำขึ้นเขียง ผ่าครึ่ง ควักเครื่องในออกแล้วจัดใส่จานเลยดื้อ ๆ เสริฟพร้อมผักสดหรือสาหร่าย ถึงโต๊ะคนก็แย่งกันกินกันหนุบหนับทั้ง ๆ ที่มันดิ้นไปดิ้นมายังไม่ตายอยู่ในจานนั่นแหละ ถามแล้วได้ความว่าหากจะกินให้อร่อยต้องกินกับน้ำจิ้มเกาหลีรสชาติเปรี้ยว ๆ เผ็ด ๆ ที่เรียกว่าโชโกชูจัง แล้วตบด้วยโซจู เหล้าสาเกของเกาหลีซักจอก ก็ไม่ว่ากันทีบ้านเรายังกินสัตว์หน้าตาแปลก ๆ กว่านี้ได้

อีกชนิดนึงที่กินกันได้กันดีคือคุณเกะ (Mung-gae) มองเผิน ๆ คล้ายผลแก้วมังกร แม่ค้าจะผ่าเปลือกแข็งของมันด้วยมีดและควักเนื้อในออกมากินกันสด ๆ ผมพิจารณาแล้วมันคล้ายเครื่องในไก่เอามาก ๆ มีสีเหลือง ๆ ลื่น ๆ เมือก ๆ แหยะ ๆ ส่วนรสชาติทราบมาว่าหวาน ๆ ขม ๆ โอ้ ผมเห็นแล้วขอบาย… รับไม่ไหวจริง ๆ
มาอัพเดทเพิ่มเติมเล็กน้อย ฝนหยุดตกแล้วผมจึงออกไปหาอะไรกิน เดินไปเดินมาก็เจอกับสาวน้อยคนนี้ที่สวยกว่าสาวเกาหลีคนไหนๆ ที่เดินสวนไปสวนมา แหะๆ เธอเป็นแอร์ไทยมาไฟลท์เดียวกับผมนี่แหละ
แค่นี้ล่ะครับ…