
Survival Kit: ชีวิตลูกเรือไทย โรงแรมใหม่ที่ลอนดอน ตอนที่ 1 ว่าด้วย Hotel Information and Facilities
เรื่องและภาพ: กำแหงหาญ
...........................................
ข่าวเซอร์ไพรส์สุดๆ ของลูกเรือยุโรปยามนี้ เห็นจะไม่มีเรื่องใด Hot ไปกว่าการเปลี่ยนโรงแรมลูกเรือที่สถานีลอนดอน จาก Hilton Kensington มาเป็นโรงแรมละแวกสนามบินฮีทโธรว์ ด้วยไม่มีใครคิดว่าเราจะต้องระเห็จจากโรงแรมที่อยู่กันยาวนานกว่า 30 ปี (ผมยังไม่เกิดเลยด้วยซ้ำ 555) โดยฝ่ายบริหารให้เหตุผลว่าการย้ายโรงแรมจะช่วยประหยัดงบประมาณบริษัทได้กว่าปีละ 60 ล้านบาท ว้าว!!! ผมไม่คอมเมนต์เรื่องนี้ เพียงแต่ตั้งใจนำเสนอเรื่องราวของโรงแรมใหม่แห่งนี้ให้เพื่อนๆ ได้รับทราบไว้เป็นข้อมูลเท่านั้น
ในตอนแรก ขอเสนอข้อมูลทั่วไปของโรงแรม ห้องพัก สิ่งอำนวยความสะดวก อินเตอร์เนต อาหารเช้า Crew Room และ Supermarket ให้รับทราบเป็นน้ำจิ้มก่อน ส่วนตอนที่ 2 ที่ 3 ว่าด้วยเรื่องการเดินทางเข้าเมืองและแหล่งช้อปปิ้งจะนำมาเสนอเมื่อไหร่ต้องคอยติดตามกันต่อไปครับ
...........................................

โรงแรมแห่งใหม่ของเราอยู่บนถนน Bath ห่างจากสนามบินฮีทโธรว์ไม่ถึง 1 กิโลเมตร อยู่ข้างรันเวย์ริมรั้วสนามบินเลยก็ว่าได้ รถรับส่งลูกเรือที่รับเราจากตีนกระไดเครื่อง ลัดเลาะออกจากสนามบินถึงโรงแรมใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที เรียกว่าใกล้มากๆ เลยทีเดียว ดูข้อมูลเพิ่มเติมของโรงแรมได้ตามลิงค์ http://www.heathrow.parkinn.co.uk/
ลูกเรือจะเช็คอิน/เอาท์ ทางด้านหลังของโรงแรม (ดูรูปประกอบหมายเลข 1) อย่าน้อยใจไป เพราะลูกเรือสายการบินอื่นๆ ก็เช็คอิน/เอาท์ด้านนี้ด้วยเหมือนกัน ที่เห็นๆ ก็มีสายการบิน Kingfisher ของอินเดีย ...แอบเห็นลูกเรือคนไทยหน้าตาน่ารักเชียว อิอิ และอีกหลายสายการบินที่ผมไม่สามารถ identify ได้ ดังรูปข้างล่าง หากเดาไม่ผิดน่าจะเป็นลูกเรือสายการบิน Gulf Air ผิดถูกประการใดต้องขออภัยด้วย เพราะคนแก่สายตาไม่ดีจริงๆ

...........................................
ห้องพัก
ขนาดห้องพักตามมาตรฐานโรงแรมทั่วไป ในความคิดเห็นของผมไม่มีอะไรด้อยกว่าโรงแรมเก่า จะใหม่และใหญ่กว่าด้วยซ้ำ ห้องพักที่โรงแรมเก่านั้นเล็กมากๆ (จำได้ไม๊) แทบไม่มีพื้นที่สำหรับวางกระเป๋าใบใหญ่ ส่วนทีวีขนาด 14 นิ้วก็แขวนไว้สูงเกือบติดเพดานห้อง (พาลให้นึกถึงโรงแรมม่านรูด) ยิ่งหน้าหนาวแบบนี้ ใครโชคร้ายถูก assign ไปอยู่ห้องปลายตึกอาจหนาวตายได้ เพราะไม่รู้มัน design ยังไงเอากระจกมากรุรอบห้อง แต่หากใครได้ห้องใหม่ที่ renovate แล้วถือว่าโชคดี และผมก็ชอบห้องสไตล์นั้นเอามากๆ เคยภาวนาให้ renovate ใหม่ทุกห้องแต่ไม่ทันการ ดันย้ายโรงแรมซะแล้ว...

มินิบาร์โล่งๆ ไว้ให้ลูกเรือแช่ของได้ตามใจ ไม่ต้องรื้อขวดออกมาให้เกิดปัญหาเหมือนโรงแรมเก่า แต่ที่ไม่ต่างจากโรงแรมยุโรปทั่วไป คือตู้มินิบาร์มักไม่ค่อยเย็น (เออทำไม) บนชั้นมีชุดชากาแฟ น้ำเปล่า Complimentary วันละ 1 ขวดเล็ก ขอเพิ่มหรือหยิบเพิ่มได้จากห้อง Crew Lounge หรือจะแอบจิ๊กจากรถแม่บ้านก็ได้ ที่สำคัญมีกาต้มน้ำให้ด้วย ส่วนตู้เซฟที่เห็นตั้งอยู่บนชั้นสูงราว 160 เซ็นต์ แอร์ตัวเล็กๆ เอื้อมไม่ถึงแน่นอน

ถัดเข้าไปในห้องพักคือชั้นวางกระเป๋า โต๊ะทำงานหน้ากระจก ทีวีจอแบน (มีช่อง TGN ให้ดูด้วย)

ข้างเตียงนอนมีสตูลยาวสำหรับนั่งนอนเล่น (หรือจะทำอย่างอื่นก็ได้ อิอิ) ครั้งนี้ผมได้เตียง Double (คือเตียงใหญ่) ความแข็งของฟูกกำลังโอเคนอนหลับสบาย แต่เบื่ออีหมอนที่บี้ๆ แบนๆ แบบนี้เหลิอเกิน ม่านปิดสนิทกันแสงได้ดี ส่วนเสียงเครื่องบินไม่มีเล็ดลอดเข้ามาอยู่แล้วเพราะหน้าต่างห้องกรุด้วยกระจกถึงสองชั้น

ห้องน้ำขนาดกระทัดรัด ไม่รู้จะบรรยายอะไร มีอ่างอาบน้ำ และ Free Toilet Amenities ทั่วไปครบครัน รวมทั้งไดร์เป่าผม

บรรยากาศภายนอกมองจากห้องพัก บริเวณนี้จะมีรถรับส่งลูกเรือวนเวียนมาไม่ขาด ว่างๆ เหงาๆ ไม่มีอะไรทำก็นั่งมองทิวทัศน์ท้องทุ่งท้องนา หรือจะดูลูกเรือสายการบินโน้นสายการบินนี้ (รวมถึงลูกเรือไทยด้วย) เดินผ่านไปมาก็เพลิดเพลินดีเหมือนกัน

ตอนเช็คอิน ลูกเรือจะได้รับซองเปอร์เดี้ยม Breakfast Voucher และโพย Hotel Information Fact Sheet ความหนา 6 หน้ามาคนละ 1 ชุด ในนั้นมีรายละเอียดที่เราพึงทราบ แนะนำให้อ่านก่อนจะถามโชว์โง่ เพราะข้อสงสัยทุกอย่างที่เราขยับจะอ้าปากถาม ใน Fact Sheet ดังกล่าวมีคำตอบเกือบทั้งหมด
...........................................
อินเตอร์เนต
เทให้สิบคะแนนเลยสำหรับฟรีอินเตอร์เนต ไม่เหมือนโรงแรมเก่าที่มีเงื่อนไขการใช้มากมาย ตอนหลังดูเหมือนจะใจดีให้ใช้ฟรีที่ Business Center ตรงข้ามเคาน์เตอร์ Reception แต่ก็ทุลักทุเลเหลือเกินสำหรับ Internet addicted อย่างผม มาโรงแรมนี้ไม่ต้องกังวลเพราะให้ใช้ฟรีไม่มีเงื่อนไขจริงๆ อย่าหาว่านำมะพร้าวห้าวมาขายสวน ผมขอแนะนำวิธีต่ออินเตอร์เนตสักเล็กน้อยเพราะป้าหลายคนทำไม่เป็นจริงๆ
เริ่มจากเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ หน้าจอมาครบแล้ว มองไปที่แถบ Task bar ด้านล่างขวา คลิก Wireless Network Connection ที่เป็น icon รูปจอคอมพิวเตอร์เล็กๆ เมื่อคลิกแล้ว จะมีหน้าต่าง pop up ขึ้นมาโชว์สัญญาณ Wireless ที่เครื่องเราจับได้ทั้งหมด ในที่นี้คือ Netpoint กับ Wayport ผมเลือก Wayport เพราะสัญญาณแรงกว่า และกด connect

กด Connect แล้วรอสักครู่ เมื่อ connected แล้วให้เปิด Browser (แล้วแต่คุณใช้อะไร IE หรือ จิ้งจอกไฟนั่นแหละ) จะปรากฎหน้าจอตามที่เห็นในภาพ คลิกที่เมนูสีแดงด้านซ้ายมือ Room Charge

ติ๊กทำเครื่องหมายเพื่อยอมรับเงื่อนไขในช่องตามลูกศรชี้ และคลิก Continue

ใส่หมายเลขห้องและนามสกุล ย้ำ ใส่นามสกุลนะครับ ไม่ต้องใส่ Initial อะไรทั้งนั้น เสร็จแล้วคลิก Connect

จะขึ้นหน้าจอนี้โชว์ข้อความที่เห็น Dear xxx ลองอ่านคำอธิบายด้านล่างจะได้ชัวร์ว่า Free of charge จริงๆ คลิก connect

เมื่อ Connected แล้วหน้านี้จะปรากฎขึ้น คลิก Browser ใช้อินเตอร์เนตได้เลย
หมายเหตุ: แรกเข้ามาในห้องพัก และต่ออินเตอร์เนตเลยอาจไม่สำเร็จ อย่าเพิ่งโทรไปโวยวายที่ Reception ครับ ให้เวลาพนักงาน register ข้อมูลและเปิด port ให้เราเสียก่อน (ใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง) ใจเย็นๆ ทำเป็นวัยรุ่นใจร้อนไปได้
...........................................
Crew Lounge

ห้องพักส่วนใหญ่ของลูกเรืออยู่ด้านหลังของโรงแรม ใกล้ๆ (ภาพแรกหมายเลข 1) แต่ห้อง Crew Lounge อยู่ชั้น 4 บริเวณด้านหน้าของโรงแรม (ภาพแรกหมายเลข 2) หาไม่ยาก จะอยู่ติดลิฟท์ใหญ่ขึ้นลงจากล้อบบี้ การเข้า Crew Lounge ก็ใช้ Key Card ของเรานั่นแหละรูดได้เลยตลอด 24 ชั่วโมง

ภายในห้อง Crew Lounge กว้างขวางสะอาดสะอ้านเหมาะสำหรับนั่งพูดคุยพักผ่อน นินทาบริษัท ด่าเจ้านาย ฯลฯ ด้านขวาเป็นชั้นวางชุดชากาแฟ กาต้มน้ำ น้ำเปล่าขวดเล็กหยิบได้ตามสะดวก (หยิบไปพอกิน เหลือให้คนข้างหลังบ้าง) และแน่นอนพระเอกของเราที่ขาดไม่ได้ ...มีเตาไมโครเวฟด้วย
ปัจจุบันลูกเรือสามารถสั่งอาหารไทยจากร้าน Jasmine ส่งฟรีถึงห้อง Crew Lounge เหมือนข้าวยุทธที่ LA แนะนำให้รวมกันสั่งครั้งละไม่ต่ำกว่า 10 พอร์ชั่น เห็นใจเค้าน่ะอุตส่าห์เดินทางมาไกล ทางร้านใจดีคิดทุกเมนูราคาเดียว 5 ปอนด์เแถมยังรับสั่งเป็ดจากร้าน Four Seasons ให้อีกด้วย (portion ล่ะ 6 ปอนด์) คิดว่าเมื่อเข้าที่เข้าทางแล้ว เราคง FAX รายการอาหารที่ต้องการล่วงหน้ามาก่อนจากกรุงเทพได้
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดเรื่องสั่งอาหารจากร้าน Jasmine ผมแนะนำให้อ่าน Information ของลูกเรือที่มาก่อนซึ่งเขียนติดไว้ในห้อง Crew Lounge ครับ เพราะขั้นตอน เงื่อนไข ราคาและช่วงเวลาการส่งอาหารอาจเปลี่ยนแปลงไปแล้ว...

ส่วนพักผ่อน มีทีวีโบราณหนึ่งเครื่อง ซ้ายมือคือตู้แช่ แต่เดิมเป็นที่แช่ Soft Drink สำหรับลูกเรือที่มาในไฟลท์ปฐมฤกษ์ ปัจจุบันเป็นตู้ว่างๆ เหมาะมากสำหรับแช่ไวน์หรือเบียร์ และคาดว่ามันจะกลายเป็นตู้แช่อาหารในไม่ช้า
บรรยากาศและกลิ่นดั้งเดิมในห้อง Crew Lounge ในวันที่ผมไปถึงยังบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วยยังไม่ถูกทำลายด้วยกลิ่นอาหารไทย คาดว่าไม่นานทั่วทั้งห้องจะอบอวลด้วยกลิ่นอาหารที่พวกเราคุ้นเคย

มองย้อนกลับไปหน้าห้อง Crew Lounge มีคอมพิวเตอร์ 1 ตัวสำหรับใช้เล่นอินเตอร์เนต จะ encoding ยังไงก็ยังอ่านภาษาไทยไม่ได้ ผู้เชี่ยวชาญกรุณาจัดการให้ด่วน
...........................................
อาหารการกินภายในโรงแรม

ลูกเรือได้รับส่วนลด 30% ในทุก Outlet ของโรงแรม ทางโรงแรมยังจัด Crew Menu ไว้โดยเฉพาะ ขอรับเมนูดังกล่าวได้ที่ Reception ตอนเช็คอิน ลูกเรือจะได้รับคูปองอาหารเช้าอย่างที่เห็นในรูป เมื่อลงไปทานอาหารเช้าอย่าลืมนำไปแสดงด้วย
ห้องอาหารเช้าของโรงแรมคือห้อง Bravo Bravo อยู่ด้านหน้าของโรงแรมติดล้อบบี้ จันทร์-ศุกร์ เปิดให้บริการตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึง 10 โมง ส่วนวันหยุดเสาร์อาทิตย์เปิดถึง 11 โมงเช้าจะนั่งกันจนรากงอกก็ไม่มีใครว่า

Breakfast ทั่วไปครับ ไม่ว่าจะเป็นไส้กรอก แฮม ปาร์ม่า เตอร์กี้ หรือจะแนวอาหารนก มูซลี่ ซีเรียลหรือโยเกิร์ต ขนมปังหลากชนิด จะกินไข่แบบไหนสั่งได้ที่เคาน์เตอร์ ที่เป็นเอเชียหน่อยก็จะออกไปทางอาหารแขก คือแกงถั่วเขละๆ กับข้าวบาสมาติที่ไม่มียาง โดยรวมถือว่าไม่เลวครับสำหรับอาหารเช้าที่นี่
...........................................
ลูกเรือสามารถใช้สระว่ายน้ำ และทุกอุปกรณ์ในห้อง Fitness ได้ฟรี และมีส่วนลด 35% หากใช้บริการสปา

ออกมานอกโรงแรมกันบ้าง เดินตัดลานจอดรถไปทางซ้าย ออกนอกโรงแรมไปแล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนจะเห็นปั๊ม Texaco (หมายเลข 4) อยู่ตรงหน้า ในปั๊มมีซุบเปอร์มาร์เก็ตเล็กๆ พอใช้การได้

แต่จะเข้าไปทำไมในเมื่อมีซุบเปอร์มาร์เก็ตขนาดกลางที่มีของครบครันกว่านั้น เลี้ยวไปทางซ้าย 20 เมตร จะพบ Sovereign Food & Wine (หมายเลข 3) มีของทุกอย่างสำหรับการดำเนินชีวิตแบบง่ายๆ เช่น กับแกล้ม ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม เหล้า เบียร์ ไวน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร รวมถึงอาหารที่สั่งเดี๋ยวนั้นกินกันเดี๋ยวนั้น ผมได้ไวน์ยี่ห้อดีจากร้านนี้แหละง่ายดีไม่ต้องเดินไกล
...........................................
ตอนที่ 1 ก็จบเพียงเท่านี้ สำหรับเรื่องการเดินทางเข้าเมือง หรือแหล่ง shopping ในบริเวณใกล้เคียงขอยกยอดไปตอนหน้าครับ