
I Love Jakarta
เรื่องและภาพโดย [email protected]
............................
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ สมาชิก thaicabincrew.com ทุกๆ คน หายไปนานเลย ไม่รู้ยังจำกันได้รึป่าว (จำไม่ได้เค้าก็ไม่สน อิอิ) หลังจากหายหน้าหายตาไปนานจนหลายๆๆ คนเริ่มสบายใจ วันนี้เรากลับมานั่งเขียนเรื่องให้ทนอ่านกันอีกครั้ง คราวนี้คิดว่าน่าจะโดนใจใครหลายๆ คนนะคะ เพราะเราจะพาไปตะลุยกินกันถึงกรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซียโน่นเลยค่ะ
เวลามีสเก็ตบินมาประเทศนี้ทีไรจะคิดถึงบ้านทุกที เพราะว่าทุกอย่าง ย้ำว่าทุกอย่างจะดูเหมือนเมืองไทยมากๆ ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ ตึกรามบ้านช่อง ร้านค้าแผงลอย คิวมอไซต์ ฯลฯ จะมีก็แต่ภาษาเท่านั้นแหละค่ะที่คอยเตือนไม่ให้เราหลงว่านี่มันไม่ใช่กรุงเทพนะเฟ้ย
เอาล่ะ มาเข้าเรื่องของกินของเราดีกว่า คราวนี้เรามาถึงกรุงจาการ์ต้าค่ะ ฟังดูเหมือนใกล้ๆ เนอะ (ถ้าวัดจากเมืองไทย) แต่ถ้าวัดจากย่านตะวันออกกลางมันไม่ใกล้เลยค่ะ ถ้าไปจากอ่าวของเราก็เจ็ดแปดชั่วโมง ถือเป็นอีกไฟลท์หนึ่งที่ยาวนานน่าเบื่อหน่าย เสริฟให้ผู้โดยสารอิ่มหนำสำราญกันเรียบร้อยก็ว่างสิคะ เมื่อไม่มีอะไรทำก็เริ่มหาของกิน กินไปกินมารู้ตัวอีกที ก็สามารถทำน้ำหนักเพื่อขึ้นชกรุ่นเฮฟวี่เวทได้แล้วค่ะ
รวมๆ แล้วไปบินคราวนี้ถือว่าเป็นไฟลท์ที่ค่อนข้างมีความสุขค่ะ เพราะว่า request ไปบินกะรูมเมท อิอิ ชวนกันกินกระจาย
โรงแรมที่พักของเราหรูเริ่ดค่ะ ตั้งอยู่ในห้างเลย สะดวกมากๆ ของกินตรึม แถมยังสามารถซื้อของสดไว้กลับไปกิน ณ เมืองแขกได้อีกด้วย

มองจากบนห้องค่ะ เหมือนบ้านเราเลย รถติด มีทางด่วนซ้อนไปซ้อนมา

อีกหนึ่งวิวน่ารักๆ ของโรงแรมค่ะ มองลงมาจากห้องจะเห็นสระว่ายน้ำ เป็นรูปหัวใจด้วย แหววซะไม่มี
หลังจากเช็คอินและเก็บของเรียบร้อยก็ถึงเวลาออกมาหาของกินค่ะ อาหารจานเดียวที่ขึ้นชื่อของที่นี่คือ Goreng Noodles กะ Goreng Nasi ซึ่งมันก็คือก๋วยเตี๊ยวผัดและข้าวผัดนั่นเอง อร่อยจริงๆ ค่ะ คอนเฟิร์ม แต่ค่อนข้าง oily ไปนิดนึง แต่เพื่อความอร่อยเรายอมได้ค่ะ อิอิ รสชาติของ Goreng Nasi จะละม้ายคล้ายข้าวผัดน้ำพริกลงเรือบ้านเรา มีพริกด้วย อิอิ ไม่เจอพริกมานานแล้ว ดีใจมั่กๆๆ อธิบายมาซะยาวยืดขนาดนี้ มันพอจะเป็นข้อแก้ตัวได้มั้ยคะว่าไม่มีรูปให้ดู หุหุ แปะไว้คราวหน้านะคะ (เล่นง่ายๆ เนาะ)
บรรยากาศภายในห้างสรรพสินค้าเหมือนบ้านเราค่ะ การตกแต่งประดับประดาร้าน และสไตล์การแต่งตัวของคนอินโดก็เหมือนลอกแบบกันมาเด๊ะๆ แต่ที่เราตื่นตาตื่นใจที่สุดก็ตรงที่มีร้านเบเกอรี่เยอะมาก เชื่อมั้ยคะ ในระยะห้าสิบเมตร บริเวณชั้นล่างชั้นเดียวมีร้านขายขนมปังติดๆ กันห้าหกร้าน สงสัยคนที่นี่จะชอบกินหนมปังกันมาก เพราะมีคนอุดหนุนแน่นขนัดทุกร้าน แต่ที่ขึ้นชื่อและคิวยาวที่สุดคือร้าน Bread Talk ตอนเย็นๆ นี่ คิวยาวเหยียดเหมือนร้าน อาบังบอย ที่สยามบ้านเราเลย
เรากะรูมเมทมายืนน้ำลายยืดอยู่หน้าร้าน Breas Talk นานสองนาน และก็ตัดสินใจว่าเราควรเริ่มจากของคาวก่อนดีกว่า มิฉะนั้นจะต้องได้กวาดขนมปังในร้านนี้จนไม่ได้กินข้าวเป็นแน่ เมนูสิ้นคิดของเรากะเมทเวลาที่คิดอะไรไม่ออกมักเป็นอาหารญี่ปุ่น ไม่รู้เป็นไรค่ะ คิดไรไม่ออกก็ต้องหาอะไรที่มันเอเชียๆ หน่อย ก็ได้อาหารญี่ปุ่นนี่ล่ะค่ะ เพราะว่า มันดูน่ากลัวน้อยที่สุดแล้ว

อาหารญี่ปุ่นที่นี่ค่อนข้างแหวกค่ะ เพราะเค้าโฆษณาว่าเป็น Fusion Japanese Food อธิบายง่ายๆ ก็อาทิเช่น ข้าวปั้นไส้กล้วยกะช็อคโกแล็ต (หง่ะ อ่านแล้วคิดรสชาติไม่ออกเลย) และอีกมากมาย

เราเลยเลือกอันที่คิดแล้วปลอดภัยที่สุดมาลองชิม ซึ่งมันก็คือเกี๊ยวซ่า (อันนี้เมนูโปรดดดด) และข้าวปั้นไส้กุ้งเทมปุระกะข้าวปั้นหน้าปลาไหล

ดูกันเอาเองค่ะ ไม่มีคำบรรยาย ที่มันแหว่งไปก่อนเพราะหน้ามืดค่ะ หิวจัดจนลืมถ่ายรูป หวังว่าเพื่อนๆ คงไม่ถือสานะคะ
............................
เสร็จจากอาหารจานหลักแล้วเรามาดูกันว่าเมนูเด็ดของร้าน Bread Talk มีอะไรบ้าง

เข้ามาในร้านได้ รูมเมทของเราก็จ้ำแบบไม่สนใจใครไปยังขนมปังชิ้นที่แอบเล็งไว้ก่อนไปกินข้าว อิอิ

นี่เลยค่ะมัฟฟินช็อคโกแล็ต ใส่ช็อคโกแล็ตชิพด้วย อร่อยมากๆ หอมสุดๆ เนื้อมัฟฟินข้างนอกจะแห้งกรอบแต่เนื้อข้างในแน่นและนุ่มมากค่ะ อร่อยมากกกก

อันนี้ประมาณว่าขนมปังหน้าไก่หยองภูเขาไฟระเบิด ชื่อจริงๆ ไม่รู้ค่ะจำไม่ได้แต่อารมณ์ประมาณนี้ เพราะว่ามีทั้งรสเผ็ด และเด็ดจริงๆ เรียกว่าพ่อครัวปั่นจนมือหงิกยังไม่ทันขายค่ะ ทำเสร็จออกมาวางหน้าร้านไม่ทันไรก็ถูกคนซื้อเหมาไปทั้งถาด อร่อยอีกเช่นกันเราและรูมเมทขอคอนเฟิร์มค่ะ เค้าโชว์วิธีการทำกันให้เห็นจะๆ เลย

ส่วนอันนี้เราชอบที่สุดค่ะ มันคือมัฟฟินบลูเบอร์รี่นั่นเอง บลูเบอร์รี่ทะลักมากๆเรียกว่าทุกอณูของขนมชิ้นนี้อุดมไปด้วยบลูเบอร์รี่หวานหอม เนื้อมัฟฟินจะชุ่มนิดๆ เพราะเค้าใส่บลูเบอร์รี่เยอะมากเรียกว่ายกกันมาทั้งสวน แนะนำค่ะเมนูนี้พลาดไม่ได้จริงๆ ไม่งั้นโกรธกันตายเลยนะคะ

ยังไม่พอค่ะ นี่คือขนมปังช็อคโกแล็ต น่ากินมั่กๆๆ ยัดใส่ไมโครเวฟแป๊บนึงให้ช็อคโกแล็ตละลาย แลดูเยิ้มๆ หน่อยจะเด็ดเป็นที่สุดค่ะ

อันนี้ขนมปังไส้คัสตาร์ดลูกเกดโรยไอซ์ซิ่ง เริ่ดอีกเช่นกัน คัสตาร์ดกลิ่นวนิลาหอมมากๆๆ แต่ก็ไม่หวานแสบไส้จนเกินไป รสชาติช่างเข้ากันกับลูกเกดที่โรยหน้าไว้อย่างไม่หวงเลย กัดเข้าไปนี่รู้สึกถึงนมถึงครีมมากๆๆ สรุปว่าชิ้นนี้อร่อยจนเกินอธิบายเช่นกันค่ะ
และเพื่อไม่ให้ลูกค้าเหม็นเบื่อเมนูเก่าๆ โดยเฉพาะผู้ที่นิยมเดินห้างทุกวี่ทุกวัน ร้าน Bread Talk จึงสับเปลี่ยนเมนูบ่อยๆ ไม่เว้นแต่ละวัน นอกจากขนมปังแบบต่างๆ ที่บอกไปแล้วยังมีพวกขนมเค้กอีกนะคะ นี่คือทั้งหมดที่ซื้อมาลองชิม นี่ขนาดลองนะคะยังเยอะมากๆ ขนาดนี้ เพื่อนๆ ลองคิดดูและกันว่าถ้าเรากินจริงๆ มันจะขนาดไหน อิอิ กินเสร็จปุ๊บก็นั่งกลุ้มใจเพราะไม่รู้จะเอาออกได้เมื่อไหร่ เศร้าค่ะ
หลังจากหม่ำกันเรียบร้อย เราก็เดินย่อยด้วยการชมห้าง ดูว่าเค้ามีไรขายกันบ้าง เลยเอารูปมาให้ดูขำๆ กะค่าเงินบ้านเมืองนี้ จะทำหน่วยเงินให้มันเล็กๆ หน่อยไม่ได้หรือไง ศูนย์หลายตัวแบบนี้มันคิดยากนะคะ ยิ่งเก่งๆ เลขอยู่ด้วย

ในภาพเป็นรองเท้าธรรมดาแต่ติดป้ายไว้คู่ละ 100,000 รูเปีย นี่ราคาลดแล้วนะคะ จะบ้าตาย แลกเงิน 20 ดอลล่าร์ได้มา 140,000 รูเปีย ยิ่งเวลาเข้าไปซื้อของสดในซุปเปอร์นะคะ ไม่ต้องพูดถึง วุ่นวายน่าดูจะรับจะทอนต้องคอยนับคอยคำนวนให้ดีค่ะ
เป็นไงบ้างคะ แอร์กัลฟ์พาทัวร์กินครั้งนี้ ถูกใจกันรึป่าว อ่านไปอ่านมาสงสัยเพื่อนๆ แอบไปหยิบขนมมากินกันไปด้วยแน่ๆ เลย เห็นนะ เคี้ยวกันตุ้ยเลย อย่าว่าแต่คนอื่นเลย เรานั่งเขียนเรื่องนี้ยังหิวเลยค่ะ อิอิ หวังว่าเพื่อนๆ ทุกคนจะ enjoy eating กันนะคะ ใครกำลังจะสมัครแอร์ก็ดูแลน้ำหนักตัวเองกันบ้าง ไม่งั้นจะอ้วนเป็นหมูลดน้ำหนักไม่ทันแล้วจะยุ่ง ส่วนเพื่อนๆ ที่เป็นแอร์กันแล้ว ขอเชิญชวนให้กินกันมากๆ นะคะ เราจะได้เป็นหมูบินกันทุกคนเลย ไชโย
............................
I Love Jakarta
เรื่องและภาพโดย [email protected]