
Just a New Year Note from New York โดยกำแหงหาญ
เรื่องและภาพโดย กำแหงหาญ
....................................
ช่วงนี้ดูเหมือนเว็บจะหงอยๆ ไป ก็ไม่เป็นไรมันเป็นวัฎจักรของมัน ถ้าเว็บมันพูดได้คงบ่นว่าตลอดปีที่ผ่านมามันแทบไม่ได้หยุดพัก ทั้งดีใจทั้งเสียใจ ส่งข่าวรักคุด หรือกระทั่งด่าพ่อล่อแม่กันมันก็รับได้ทั้งนั้นเพราะมันไม่มีหัวใจ แต่คนดูแลนี่สิต้องตามล้างตามเช็ด มนุษย์เราก็แปลก ชอบหาเรื่องมาด่าทอกันทั้งที่ไม่เคยโกรธกันซักหน่อย ความคิดเห็นไม่ตรงกันหรือขัดแย้งกันเป็นเรื่องธรรมดา แต่เล่นถ่อยกันบ่อยๆ บางทีก็น่าจับคนตั้งกระทู้มาลนไข่ซะให้เข็ด
ใกล้ฉลองปีใหม่ ใครๆ ก็เตรียมออกไปเฉลิมฉลอง เว็บเราก็เดียวดายตามฟอร์ม
เมืองไทยตีสี่กว่าแล้ว แต่ที่นี่เพิ่งสี่โมงกว่า จริงๆ ก็รู้สึกง่วงอยู่เหมือนกันแต่ถ้านอนตอนนี้ตื่นขึ้นมาอีกทีตอนสี่ทุ่มแล้วมันจะยุ่ง เพราะพรุ่งนี้ผมก็ต้องทำงานกลับ ตลอดสิบเจ็ดชั่วโมงถ้าพักผ่อนไม่พอก็มีแต่ตายกับตาย
กลับมาเรื่องเว็บของเรากันต่อ ปีที่ผ่านมาเพื่อนๆ สมาชิกคงสมหวังบ้างผิดหวังบ้าง ในฐานะทีมงานก็ดีใจที่เพื่อนๆ ประสบความสำเร็จ แต่อย่าไปไหนไกลแวะเวียนกลับมาหาเพื่อนๆ ที่ยังสิงสถิตอยู่ที่นี่บ้าง อย่าให้ใครว่าเราได้ว่าสำเร็จเสร็จกิจก็เปิดตูดหนี สาธุชนคนดีมีน้ำใจอยู่ที่ไหนใครก็รัก ไม่ได้หวังปั่นกระแสให้เว็บดังๆ ยิ่งขึ้นไปหรอก เพราะทุกวันนี้สปอนเซอร์ก็เต็มหน้าเว็บจนแทบหาเนื้อหากันไม่เจออยู่แล้ว แล้วถ้าใครรู้จักพวกเราดีจะรู้ว่าเงินน่ะชอบ สปอนเซอร์เยอะเท่าไหร่เงินก็มีเหลือให้ใช้จ่ายโน่นนี่ แต่ถึงวันนึงหากต้องมีอันเป็นไป (ไม่ว่าคนหรือเว็บ) สาบานได้ว่าจะเลิกทำเว็บซะเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะมีคนรอเสียบอยู่เยอะแยะ แต่เอาเถอะชีวิตยังไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันต่อไป ก็คงจะทำไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ยังมีคนสนับสนุน ถ้าเว็บนี้มันจะมีประโยชน์กับคนรุ่นต่อไปบ้างก็คงจะทำมันอยู่เรื่อยไป ...ตราบชั่วฟ้าดินสลายนั่นแหละ
............................
กว่าจะมาถึงนิวยอร์คนี่มันโคตรเหนื่อย สิบเจ็ดชั่วโมงไม่ใช่เรื่องเล่นๆ บ่นไปอย่างนั้นแหละเพราะอย่างไรมันก็เป็นอาชีพที่เรารัก มาถึงโรงแรมนัดกับเพื่อนๆ ร่วมไฟลท์เรียบร้อยก็หลับยาวเลยนัด ข้าวปลาไม่ได้กิน 24 ชั่วโมง มองออกไปนอกหน้าต่างเห็นร้านสะดวกซื้อยังขี้เกียจลงไปซื้อทั้งข้าวทั้งเบียร์ คิดดูว่ามันเหนื่อยขนาดไหนเบียร์ยังกระเดือกไม่ลง
ใครอย่ามาตอแหลว่าเป็นลูกเรือแล้วไม่เหงา ผมมาอยู่ในเมืองอึกทึกแบบนี้ก็ยังโกหกตัวเองไม่ได้ว่าเหงาและเปลี่ยวโคตรๆ มันไม่น่าจะเหงาหรอกแต่เวลาที่ผ่านมาดันมีอะไรบางอย่างผ่านเข้ามาในชีวิต มีบางอย่างที่อยากสารภาพ แต่ขออนุญาตเก็บไว้ในใจซะหน่อยและกัน แต่ที่แน่ๆ มันก็ช่วยหล่อเลี้ยงหัวใจที่เ*่ยวเฉาให้พอสดชื่นขึ้นมาบ้าง
ดีที่ยังมีเนต ก็ออนไลน์ไปงั้นพอให้หายเหงา ขอบคุนที่โลกนี้มี MSN แต่ก็แย่ตรงที่คนที่ผมอยากคุยด้วยหายหัวไปไหนไม่รู้ พูดกันตรงๆ เธอจะรู้ไม๊ว่าผมคิดถึง...

อีกวันนั่นแหละถึงได้พบหน้าผู้คน ลงไปข้างล่างก็เจอเพื่อนร่วมไฟลท์ คุ้นหน้าคุ้นตากันดีเพราะเคยบินเคยทำงานกันมาหลายต่อหลายครั้ง ผมมานิวยอร์คเป็นครั้งที่สามเลยไม่อาจอาสานำทางใครๆ ได้ ก็ได้เกด น้องแอร์เพื่อนเก่าเพื่อนแก่นี่แหละพาไปกินข้าวร้านอร่อย โชคร้ายที่เรานัดเจอกันเร็วไปร้านอร่อยของเกดยังไม่ทันเปิด ก็เลยได้อาหารเช้าแบบฝรั่งอย่างที่เห็นนี่แหละ

ไข่ดาวสองฟอง เฟรนซ์ฟรายโง่ๆ ราวๆ สิบชิ้น และขนมปังปิ้งหนึ่งคู่บวกกับกาแฟที่รสชาติเหมือนน้ำล้างตีน (ไม่เคยกินหรอกน้ำล้างตีนแต่พอจะเดาได้) ราคา 4 เหรียญกว่าๆ ก็พออิ่ม นี่ถ้าแพงคงด่าหนักกว่านี้ น้องๆ แอร์กึ่งแก่กึ่งสาวอีกสองคนคือผึ้งกับน้อง กินกันนิดหน่อยก็บอกอิ่ม ก็มีผมนี่แหละที่ทำตัวเป็นไดโว่อาสากินของเหลือเดน ...แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมผมต้องกินแต่ของเหลือทุกอย่าง

นี่ไงน้อง ใครเป็นแฟนประจำเว็บนี้คงเคยเห็นหน้ามาแล้วจากเรื่อง เอ่อ เรื่องอะไรนะ เรื่อง yellow box ร้านอาหารไทยที่สนามบินแฟรงค์เฟิร์ตไง

อิ่มแล้วก็ถึงเวลาเดินช้อปปิ้ง โรงแรมที่เราอยู่ก็ถือว่าอยู่ใจกลางเมือง เดินไปอีกหน่อยก็ถึงร้าน Bath & Body ผมก็ยืนรออยู่นอกร้านเพราะของพวกนี้ไม่เคยอยู่ในลิสต์ เสร็จแล้วก็เดินไปแถวๆ ตึกเอมไพร์สเตรทที่เห็นอยู่ด้านหน้านั่นแหละ ที่เดินไปทางนี้ก็ใช่จะอยากเดินเล่นอะไรนัก ส่วนใหญ่ก็ต้องไปซื้อของตามที่คนทางบ้านสั่ง เพราะร้าน Victoria's Secret และห้าง Macy's ก็อยู่ไม่ห่างจากตรงนี้นัก

คนเข้าคิวรอขึ้นตึกเอมไพร์สเตรทวันนี้ยาวเป็นกิโล พวกเราไม่มุมานะขนาดนั้นหรอกครับ ได้แต่เข้าไปยืนถ่ายรูปในล๊อบบี้แค่นี้ก็เก๋แล้ว
ห้าง Macy's อยู่ตรงปลายถนนบอร์ดเวย์ คนบานเลยอาจเป็นเพราะใกล้ปีใหม่ใครๆ ก็เลยมาจับจ่ายใช้สอย ผมเข้าไปซื้อลีวายส์ 501 ให้เพื่อนรักหนึ่งตัว ราคามันก็ไม่ได้ถูกไปกว่ากรุงเทพหรอก แต่เอาเหอะเพื่อนอยากได้เราก็จัดให้

ห้างมันก็คือห้างไม่ได้มีอะไรวิเศษวิโสแต่ถ้าเดินอยู่ในนั้นนานๆ ก็มีสิทธิเสียตังค์ตูดบานได้ ที่ถ่ายมารูปนี้ก็เพราะเป็นบันไดเลื่อนรุ่นเก่าทุกอย่างเป็นไม้ ก็ได้ผึ้งและน้องนี่แหละเป็นแบบมาให้

จากตรงนี้ก็แยกทางกันเพราะชีวิตใครชีวิตมันอยากช้อปกันต่อก็เชิญแต่ผมอยากกลับโรงแรมนั่งกินเบียร์เต็มที แต่ก่อนกลับเกดชวนไป Time Square ก็ลื่นไหลตามฝูงคนไปจนถึงที่ มันก็เจ๋งดีมีไฟวูบวาบเยอะแยะ ถ้ามีเวลาก็นั่งมองเพลินๆ ได้เป็นชั่วโมง

เดินผ่าน Rockefeller Center แวะถ่ายรูปนิดนึง
เสร็จแล้วก็กลับโรงแรม เก็บของลงกระเป๋า ต่อเน็ต เปิดเบียร์ cheers เธอยังไม่มา ตีห้าแล้ว... จะให้ผมคิดถึงไปถึงไหน
................................
สวัสดีปีใหม่ทุกท่านจากทีมงาน thaicabincrew.com