ช่างเป็นการรับน้องใหม่ที่น่าพิสมัยเสียยิ่งนัก ไฟล์ทแรกได้กลับบ้าน ไฟล์ทสองก็ได้ไปเมืองที่คนหลายคนในโลกอยากไปมากที่สุดแห่งหนึ่ง นครเวนิส ประเทศอิตาลี
ระหว่างที่ฉันและเจ้านายกำลังนอนหลับอยู่ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา
.........กริ๊งงงงงงงงงงงงง.........
เธอรับโทรศัพท์อย่างงัวเงีย แต่พอรู้ว่าเป็นโทรศัพท์เรียกตัวไปบิน แถมได้ไปเวนิส(ฉันเองก็ตื่นเต้นไปด้วย) เท่านั้นละ ตาสว่างกันทั้งคนและกระเป๋าเลยทีเดียว
เธอรีบจัดของอย่างด่วน ไปอาบน้ำ แล้วก็ออกมาจัดใหม่ ยัดนี่ใส่ดึงนู่นออก จนฉันเองงงไปหมดแล้วว่าจะเอาอะไรไปกันแน่ แอร์มือใหม่ เพิ่งหัดจัดกระเป๋าก็แบบเนี๊ย
เธอมีเวลาไม่ถึงชั่วโมงในการเตรียมกระเป๋าและแต่งตัว ส่วนกระเป๋าอย่างฉันก็ได้แต่เตรียมพร้อมทุกสถานการณ์ ไฟล์ทที่แล้วเธอเล่นบรรทุกครก กระทะ อี้โต้ และอื่นๆที่ไม่น่าเชื่อว่ากระเป๋าสี่เปลี่ยมความจุธรรมดาๆอย่างฉันจะเอาอยู่ หวังว่าคราวนี้ เจ้านายจะไม่ทำอะไรแบบนั้นอีกนะ ไม่อยากท้องป่องเป็นปลาทองแล้ว
และแล้ว เมื่อเตรียมตัวเสร็จ เธอก็ลากฉันลงไปรอรถบัส ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนเช่นเดิม ไปถึงตึกของสายการบิน เธอก็จัดแจงวางฉันไว้ในที่ปลอดภัย เข้าห้องประชุม แล้วออกมาลากฉันไปขึ้นเครื่อง ฉันเริ่มทำหน้าที่ของฉัน แม้จะยังงกๆเงิ่นๆอยู่บ้าง
เจ้านายเองก็เช่นกัน เห็นNIPPONมาเล่าทีหลังว่า อยู่บนเครื่อง นั่งหน้าผู้โดยสารอิตาลีหล่อๆทั้งสองหนุ่มหน่อย ทำอะไรไม่ถูก จนหนุ่มๆต้องบอกว่า ใจเย็นๆ (คิกๆ) ไม่รู้ว่าตื่นเต้นเรื่องทำงานหรือเพราะมีหนุ่มๆนั่งจ้องหน้าก็ไม่รู้ ฉันละอยากเห็นหน้าหนุ่มอิตาเลียนเสียจริงๆ เห็นล่ำลือกันมานานว่าหล่อนักหล่อหนา แต่กระเป๋าเดินทางอย่างเรา จะมีบุญได้เห็นมากสุดก็คงเป็นพนักงานยกกระเป๋าที่คงเคยหล่อเมื่อสมัยตอนยังหนุ่มเท่านั้น เฮ้อ!
พอลงเครื่องแล้ว ฉันก็ได้ยินเสียงตัดพ้อจากเพื่อนๆแอร์สาวหลายคนของเจ้านาย ว่าทำไมไม่บอกกันบ้างว่ามีคนหล่อนั่งอยู่แถวไหน ฟังแล้วก็ขำดี เรื่องของสาวๆเขาพูดกัน
ระหว่างทาง โชคดีที่ฉันทับอยู่บนสุดในกองกระเป๋า เลยได้เห็นวิวข้างทาง เวนิสเป็นเมืองที่ดูยังคงความเป็นยุโรปสมัยก่อนอยู่ บ้านจะเป็นบ้านเล็กๆสีสวยงาม บางบ้านก็มีเถาวัลย์พันดูสดชื่นและขลังไปในตัว ไม่ได้เป็นยุโรปทันสมัยแบบเมืองอื่นที่จะสร้างบ้านสไตล์โมเดินอย่างที่เราเห็นๆกันในโทรทัศน์
อย่างไรก็ตาม พอเริ่มเข้าตัวเมือง ก็เริ่มเห็นความโมเดินของตึกรางบ้านช่อง แต่ถ้าได้ไปเห็นเองจะรู้สึกได้ว่า ความเป็นนครเวนิส มันหมายความว่าอย่างไร
เมื่อถึงโรงแรม ลูกเรือทุกคนนัดหมายลงมาเจอกันในอีกชั่วโมง เจ้านายจึงรีบจัดแจงพาฉันไปห้อง เปิดตัวฉันออกแล้วเลือกชุดที่เตรียมมาไปใส่
เธอรีบวิ่งออกไปเที่ยวต่อ ส่วนฉันขอตัวพักผ่อนเงียบๆในห้องพักแล้วกัน (หาว)
……………
“อะไรเนี่ย ดึกป่านนี้แล้ว เจ้านายยังไม่กลับอีกเหรอ นี่มันจะเที่ยงคืนแล้วนะ” ฉันกระวนกระวายใจเพราะเจ้านายยังไม่กลับ ไม่รู้ว่าจะหลงทางหรือเปล่า เพราะครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่เธอได้ไปเที่ยวที่ซึ่งเธอไม่คุ้นเคยและไม่เคยมามาก่อน ครั้งแรกที่ได้ไฟล์ทบินมาต่างประเทศ
พูดไม่ทันขาดคำ เธอก็เปิดประตูเข้ามา หน้าตาของเธอดูง่วงนอนอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็เห็นได้ว่าถึงจะง่วงแต่ก็ดูท่าว่าวันนี้เธอคงสนุกมากน่าดู
ฉันเห็นเธอนั่งดูรูปที่ถ่ายมา เธอไปจัตุรัสเซต์มาร์ค แถมได้ล่องเรือกอนโดล่าด้วย น่าอิจฉาเสียจริง ถ่ายรูปสวยๆมาเยอะไปหมด โชคดีที่ไปกับเพื่อนๆแอร์ที่มีประสบการณ์ เลยไม่หลง ขอบคุณพระเจ้าที่คุ้มครองเจ้านายฉัน เอเมน.
รุ่งขึ้นอีกวัน เธอตื่นแต่เช้าออกไปเดินชมเมืองแถวโรงแรม แล้วก็กลับมาแต่งตัวเพื่อไปทำหน้าที่แอร์โฮสเตสเช่นเดิม เพียงแต่ขากลับ ไม่มีหนุ่มหล่อสองคนนั้นนั่งตรงข้ามให้ใจหวิวเช่นขามาแล้ว NIPPONแอบมารายงานว่า ทำงานได้มีสมาธิขึ้นมาก (วอกแวกเพราะชายหนุ่มจริงๆเจ้านายเรา)
กลับมาถึงอาหรับ เห็นรีบเอารูปลงคอมพิวเตอร์เป็นอย่างแรก เห็นเธอโพสให้พ่อเห็นด้วยละมั้ง นั่งหัวเราะตอนดูรูปอยู่คนเดียวในห้อง ดูแล้วก็ดูอีก
ทำงานเริ่มสนุกแล้วสิ !
โปรดติดตามตอนต่อไป
![bn43 [smilie=bn43.gif]](./images/smilies/bn43.gif)