
เป็นเพียงบันทึกประสบการณ์สั้นๆ ของผมที่นำมาถ่ายทอดให้พวกคุณได้ร่วมรับรู้ กับชีวิตการทำงานไฟลท์สุดท้ายของน้องมีนา-แอร์สาวชาวญี่ปุ่น หลังจากที่เธอร่วมงานกับเรามาเกือบ 7 ปี บัดนี้ถึงเวลาที่เธอต้องออกไปพบกับประสบการณ์ใหม่ๆ มันก็น่าใจหายอยู่หรอกที่ผมต้องทำงานกับเธอในเที่ยวบินนี้ ว่ากันตามตรง ผมค่อนข้างชินชากับเรื่องเศร้าๆ เพราะผ่านร้อนผ่านหนาวมากว่า 40 ปี เรื่องพลัดพรากจากตายจึงดูจะเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว แต่นั่นแหละ พูดไปทำไมมี ก็คนเคยเห็นกันมา เคยพบปะทักทายและเคยพูดคุยกันบ่อยๆ การที่บังเอิญได้ทำงานร่วมกันกับเธอในไฟล์ทสำคัญนี้นับเป็นประสบการณ์ที่พิเศษสุดๆ สำหรับผมจริงๆ
ในฐานะที่เป็นมนุษย์มีเลือดเนื้อ มิใช่พระอิฐพระปูน... ยังไงผมก็อดใจหายไปกับเธอด้วยไม่ได้
ภาพทั้งหมดจากเที่ยวบิน TG 677 สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น มุ่งหน้าสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพ ดูรูปกันเลยดีำกว่าไม๊?

ผม น้องมีนา และน้องเกดถูก assign ให้ทำงานในครัวใต้กะได เที่ยวบินยาวๆ เกือบ 5 ชั่วโมงเราจึงมีเวลาพูดคุยไต่ถามกันเหลือเฟือ รูปนี้เธอใส่วิกของน้องเกดที่เอาออกมาเล่น รีบๆ ใส่ถ่ายรูปกันขำๆ หัวเธอเลยออกจะดูบวมๆ หน่อย
หลังจากทำงานกับเธอทั้งขาไปและขากลับ ผมจึงรู้ว่าเธอเป็นแอร์โฮสเตสในฝันของสจ๊วตทุกคน ถ้าเปรียบเทียบก็เรียกว่าเป็นแอร์มิตซู Heavy Duty Made in Japan แท้ๆ รับประกันคอมเพรสเซอร์ตลอดอายุการใช้งานทีเดียว เธอไม่ใช่แอร์ผู้กอง หรือแอร์อีแหมะ ที่ชอบวางของไว้เต็มครัว เธอไ่ม่ใช่แอร์ประเภทร้องหาของเผื่อมันจะลอยมาเอง ไวน์ขาวอยู่ไหน ไวน์แดงอยู่ไหน น้ำส้มอยู่ไหน น้ำแอปเปิ้ลอยู่ไหน และเธอไม่ใช่แอร์ประเภทต้องมาถามคุณซ้ำๆ ซากๆ ว่าวันนี้เราเสริฟอะไร? หมู ไก่ ข้าว บะหมี่? เหมือนกับแอร์อีกหลายคนที่มาบินแต่ตัวไม่ได้เอาหัวมาด้วย...
แม้จะบินแค่ 7 ปีแต่ทำงานกับเธอเหมือนทำงานกับแอร์มืออาชีพทีเดียว

รูปนี้น้องเกดเอาวิกที่ว่ามาใส่แทน (อืมม เกิดเลยนะนั่น) ก็ถ่ายกันหลายรูป แต่เนื่องจากครัวใต้กะไดพื้นที่ค่อนข้างคับแคบและเราเกรงว่าแสงแฟลชจะเล็ดลอดออกไปสร้างความรำคาญให้แก่ผู้โดยสาร (ห้าห้า มิวายสร้างภาพ) จึงได้รูปที่พอจะอวดเพียงแค่นี้ สังเกตว่าหน้าตาน้องมีนาอยู่ในโทนเศร้าตลอดเวลา เพราะหลังจากที่คุยกันแล้ว เราก็พบว่า... เธอไม่อยากลาออกเลย แต่มีความจำเป็นบางประการ... ไว้เฉลยตอนท้ายและกัน
มารู้จักเธอกันสักเล็กน้อย...
ชื่อจริงของน้องมีนาคือ Minako Jimbo (Jimbo แปลว่าพระเจ้าคุ้มครอง) เธอเป็นแอร์การบินไทยรุ่น 2003 คุ้นเคยดีกับประเทศไทยเพราะเคยมาใช้ชีวิตอยู่เมืองไทยเป็นครั้งคราวตั้งแต่ยังเด็กๆ เนื่องจากพ่อและพี่ชายทำธุรกิจอยู่ที่กรุงเทพ เธอเคยทำงานบริษัท Travel Agency แห่งหนึ่งก่อนจะมาสมัครเป็นแอร์โฮสเตส ภูมิหลังการศึกษาก็ไม่ธรรมดา จบจากมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นแล้ว เธอยังสู้อุตส่าห์ไปเรียน French Literature ต่อจนจบจากประเทศฝรั่งเศส ส่วนผมจบ English Literature มาแบบเกือบถูกรีไทร์จึงคุยกันแทบไม่ค่อยรู้เรื่อง (ผมคุยถึงนายเขย่าหอกแบบงูๆ ปลาๆ แต่เธอพูดถึงวิคเตอร์ ฮูโกแบบเจาะลึกรู้จริง) เออดี แล้วมันจะคุยกันรู้เรื่องไม๊เนี่ย?
แล้วก็มาถึงคำถามบังคับ ทำไมถึงมาเป็นแอร์?
น้องมีนาตอบหน้าตาเฉยๆ ยังกะผมเป็นกรรมการสัมภาษณ์งั้นแหละ "ท้าทายดีและชอบพบปะผู้คนมากหน้าหลายตาค่ะ" อืมม... ไม่ว่าแอร์ไทยแอร์ญี่ปุ่น ลองถามคำถามบังคับแบบนี้แล้วตอบเหมือนกันหมดเลยวุ้ย!

จบไฟลท์ก็ถ่ายรูปหมูร่วมกัน เที่ยวบินนี้เราใช้เครื่องจัมโบ้ 747-400 จำนวนลูกเรือจึงค่อนข้างจะคับคั่งอย่างที่เห็นในภาพ

น้องมีนาเริ่มออกอาการหัวร่อมิออก ร่ำไห้มิได้

น้องมีนา ถ่ายกับพี่โอ๋ Inflight Manager และพี่เพอร์เซอร์ อ้อ... ลืมบอกไป บนไฟลท์ นักบินและลูกเรือรวบรวมเงินคนละเล็กล่ะน้อยซื้อของที่ระลึกมอบให้แ่ก่น้องมีนา นาทีฉุกเฉินแบบนั้นก็ซื้อของ Duty Free บนเครื่องนี่แหละให้เธอ ซึ่งก็น่ารักทีเดียว เรียกว่าเงินทองไม่รั่วไหลไปไหนจริงๆ

เมื่อผ่านด่าน Immigration เข้าสู่ TG Crew Center ก็มี surprise เล็กๆ เพื่อนๆ แอร์ญี่ปุ่นร่วมรุ่นมารอต้อนรับเธอถึงหน้าประตู พร้อมมอบช่อดอกไม้และของที่ระลึก คราวนี้น้องมีนาถึงกับต่อมน้ำตาแตก

แล้วก็ถ่ายรูปหมูกับเพื่อนๆ แอร์ญี่ปุ่น
เรื่องสั้นๆ ของผมก็จบลงเพียงเท่านี้...
...............................
ไปดีเถิดนะน้องมีนา พี่ขออวยพรให้หนู Good Luck และมีความสุขกับชีวิตสมรส (อ้าว.. เฉลยซะแล้ว) มีความสุขมากๆ กับชีวิตครอบครัวและมีลูกน้อยตัวเล็กๆ เร็วๆ อย่างที่ตั้งใจ เราจะคิดถึงเธอเสมอ และจะจดจำเธอไว้ในฐานะเพื่อนร่วมอาชีพตลอดกาล...
...............................