ล่วงเข้าวันที่สอง ถึงแม้ว่าจะต้องตื่นกันตั้งแต่ตีห้า
แต่ด้วยความที่ภารกิจสิ้นเสร็จกันตั้งแต่ สิบเอ็ดโมงกว่า
สมาชิกในไฟล์ทจึ่งนัดกันไปเยี่ยมถนนคนเดิน
ซึ่งในวันนั้นข่อยก็ได้ลวงน้องฝ้ายและน้องปิ๊กไว้เรียบร้อยแล้น
สิริรวมร่วมสิบชีวิต พี่ใหญ่ไฟล์ทอื่นที่ร่วมวงโคจรมาเจอกันจึงกางรักแร้โบกรถแดง ที่ต้องชะตามาถึงพอดี
"สิบคนหกสิบได้เปล่าน้อง แค่นี้เอง"
......
"คนละสิบเหอะ ได้โปรด" พี่คนขับละล่ำละลักหลังอึ้งไปพักใหญ่
เมื่อตกลงราคาค่างวดกันเป็นที่เรียบร้อยผองเราก็เฮละโลขึ้นรถกันไปในทันที
ภาพด้านบนคือ ตัวอย่างของการขึ้นรถแดงอย่างปลอดภัย
มือขวาเตรียมโหนราวด้านใน ขณะที่มือซ้ายก็เกี่ยวที่จับนิรภัยด้านนอกไว้ด้วย
เวลาหกโมงยังไม่มืดมากแต่ดูจากการจราจรและผู้คนที่เดินปลิ้นทะลักจากบาทวิถึลงไปที่ถนน ก็พอจะเดาได้ว่าวันนี้คงจะมีชาวประชาคับคั่งน่าดู
สองสาวเริ่มชะโงกชมข้าวของตามขอบทาง
แต่แว่วว่าวันนี้จะมาโชว์การย่อยสลายอาหาร
จึงยังชั่งใจไม่ช้อปเนื่องจากกลัวว่าข้าวของพะรุงพะรังจะเป็นอุปสรรคในการคีบตักจกชิม
ฝั่งนี้คนยังน้อย ดูป้าแกหันซ้ายหันขวาท่าทางเหงา
สืบเท้าลึกเข้าไปในถนนก็พบน้องแก้มยุ้ยกำลังฟ้อนอยู่กลางทาง ใบหน้าน้องช่างมุ่งมั่นเหลือแสน ถ้าพี่ขอรำด้วยน้องจะหวงเสื่อไหมหนอ
เดินไปได้สักพักสองสาวเริ่มคอแห้งกันแล้ว เนื่องจากตอนไปถึงโรงแรมข่อยไม่ได้เตรียมอะไรไว้ให้น้องดื่ม จะมีก็แต่คำเชื้อเชิญว่า
"ตามสบายนะคะ แต่พี่ไม่มีอะไรให้กิน"(พี่ก็ยังไม่ได้กินเน้อ เดี๋ยวจะหาว่าเค็ม)
ปล. หิวข้าวแล้ว ขอแว่บแป๊บเดี๋ยวมาโพสต์ต่อ