ชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ กรุงเทพ
ชมพิพิธภัณฑ์ดี ๆ ที่ต่างประเทศกันมาแล้ว อย่าลืมแวะชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติของเราบ้างนะครับ
วันนี้ admin ตื่นสาย ๆ ขับรถพาพ่อไปหาหมอตามวาระที่ศิริราช ระหว่างที่พ่อรอพบหมอก็ชิ่งข้ามเรือมาท่าพระจันทร์ แวะเข้าไปกินข้าวในธรรมศาสตร์ จากนั้นมาโผล่ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระนครเฉยเลย
สมัยเด็กๆ admin มาบ่อย ทั้งมากับโรงเรียนและมากับพ่อแม่ ยังจำความรู้สึกได้ว่าเป็นการทัศนศึกษาที่โคตรจะน่าเบื่อ แต่ที่ชอบ และตื่นตาตื่นใจทุกครั้งที่ได้มาชมคือโรงราชรถ ซึ่งก็คือที่เก็บพระราชยาน ที่ใช้ในงานพระเมรุมาศนั่นแหละ
ค่าเข้าชมคนละ 30 บาท ส่วนชาวต่างชาติ 200 หรือ 300 บาทนี่แหละ อย่าไปว่ากรมศิลป์เลย พิพิธภัณฑ์หลายแห่งในต่างประเทศก็คิดราคาเข้าชมไม่เท่ากันแบบนี้ ถือว่าทีใครทีมันก็แล้วกัน
อาคารแรกคือพระที่นั่งศิวโมกขพิมาน แอร์เย็นเจี๊ยบ บรรยากาศสวยงาม จัดไฟในอาคารเหมือนพิพิธภัณฑ์ชั้นนำในต่างประเทศ

พระที่นั่งแห่งนี้เป็นสถานที่จัดแสดงศิลปวัตถุชั้นเยี่ยมของพิพิธภัณฑ์เลยก็ว่าได้ ที่ไม่ควรพลาดชมเป็นอย่างยิ่งคือจารึกพ่อขุนรามคำแหง หรือศิลาจารึกหลักที่ 1 ที่เราคุ้นเคยกันดี

ที่วางจัดแสดงอยู่ด้านหน้าคือรูปปั้นสำริดพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร พบที่วัดพระธาตุไชยา (กล่าวกันว่ากรมพระยาดำรงฯ ทรงเห็นฝังดินตั้งแต่อยู่บนหลังม้า ว่ากันอย่างนั้น)

ที่เด่นสุด ๆ คือเศียรพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ว่ากันว่าคือเศียรพระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งได้มาจากวัดพระศรีสรรเพชญ์ จังหวัดอยุธยา เรื่องนี้ก็สนุกครับ อภิปรายกันไปถึงเมื่อครั้งเสียกรุง กองทัพพม่าไม่ได้เอาไฟเผาลอกทองพระพุทธรูปองค์นี้ซักหน่อย ใครสนใจเรื่องนี้ admin แนะนำให้หาหนังสือ “พระศรีสรรเพชญ ไม่ถูกไฟเผาลอกทองตอนกรุงแตก” โดย ผศ.ดร.รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล มาอ่านครับ
admin แวะเข้าไปไหว้พระพุทธสิหิงค์ในพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ จากนั้นก็เดินฝ่าเปลวแดดผ่านพระตำหนักแดง ที่ประทับของสมเด็จพระปิ่นเกล้าเมื้อครั้งทรงพระเยาว์ ใจอยากเข้าไปชม แต่เนื่องจากมีเวลาไม่มากนัก เลยโฉบเข้าอาคาร แอร์เย็น ๆ สบายกว่าเยอะครับ

ที่ได้เห็นและตื่นเต้นมาก ๆ คือตั่งที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าตากสินที่ได้จากจังหวัดระยอง เก้าอี้สนามของรัชกาลที่ 1 ที่ทรงใช้ประทับนั่งลำลองคราวสงคราม เสลี่ยงหิ้วสมเด็จพระปิ่นเกล้าจากวังหน้าไปวังหลวง ฯลฯ
ที่ได้เห็นทั้งหมดวันนี้ถือเป็นบุญตา คุ้มค่าราคาค่าเข้า 30 บาทแล้วครับ